คนที่ได้มาที่นี่ และได้ฟังพระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง เป็นเรื่องที่หายากในโลก
ยากพอ ๆ กับการเห็นความจริงของโลก
ยากเย็นแสนเข็ญมาก ๆ ท่านอายุ ๔๐, ๕๐, ๖๐ ปี พึ่งเห็น พึ่งรู้
พระพุทธเจ้าบอกว่า
เป็นบุญอันยิ่งใหญ่ ที่คนได้มีดวงตาเห็นธรรม
พออัญญาโกณฑัญญะ มีดวงตาเห็นธรรม ตอนฟังธรรม รู้เลยว่า
*อันไหนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น *สิ่งนั้นย่อมมีความดับเป็นธรรมดา
พระพุทธเจ้าอุทานเลยว่า
โอ้! อัญญาโกณฑัญญะ เจ้ารู้แล้วหนอ สิ่งไหนเกิดขึ้น สิ่งนั้นมีความดับ
อัญญาโกณฑัญญะ ได้รู้ว่า
*สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมด มีความดับไปเป็นธรรมดา*
นั้นคือ ทุกสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกจักรวาล ไม่มีรอด *ไม่เที่ยงเกิดดับ
พระพุทธองค์ประทานการอุปสมบทให้โกณฑัญญะ ด้วยพระดำรัสว่า
“เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว เธอจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดดับทุกข์โดยชอบเถิด”
ด้วยพระวาจาเพียงเท่านี้ โกณฑัญญะ ก็สำเร็จเป็นพระภิกษุ ในพระพุทธศาสนา นับว่าเป็นพระสงฆ์รูปแรกในโลก
และการอุปสมบทด้วยวิธีนี้เรียกว่า *เอหิภิกขุอุปสัมปทา
นี้คือพระธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ แล้วเอามาสอน ปัญจวัคคีย์
*อัญญาโกณฑัญญะ
อุทานออกมาคือ *ไม่เที่ยงเกิดดับ มีเกิดก็มีดับ*
พระธรรมคำสอนที่พระองค์ตรัสรู้ ก็คือ “ไม่เที่ยงเกิดดับ” มีคนรู้ตามได้
แล้วท่านทั้งหลายที่ได้มาที่นี้ แล้วเห็นเหมือน อัญญาโกณฑัญญเถระ
ท่านก็รู้แล้วหนอ
นั้นคือ อริยบุคคลที่รู้ไม่เที่ยงเกิดดับเท่านั้นละ เป็นอริยบุคคลทันที
อย่างน้อยก็ โสดาปัตติมรรค
โสดาปัตติผลเป็นอริยบุคคลขั้นต้น
มีแค่นี้เท่านั้น คือการเติมข้อมูลใหม่
คือ *เติมไม่เที่ยงเกิดดับ ดับความพอใจ ไม่พอใจเท่านั้น
**ง่าย** แต่เวลาจะทำมันยาก เพราะเราสั่งตัวเองไม่ได้
แล้วอะไรสั่ง ก็ข้อมูลสั่ง (ข้อมูลเก่า ที่เป็นบาปอกุศล)
เราจึงต้องใส่ข้อมูลใหม่ คือ *ไม่เที่ยงเกิดดับ* ที่เป็นกุศล ที่ปัญญา ที่เป็นความจริง ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
ถ้าเราไม่ใส่ข้อมูลใหม่ *ข้อมูลเก่าก็สั่งเรา เราก็ไปไหนไม่ได้ วนเวียน เวียนว่ายตายเกิด ไม่รู้จบอยู่อย่างนี้
*จะมีแต่ความคิดที่เลื่อนลอย
*จินตนาการคิดแต่ หนีทุกข์ไปหาสุข ตลอดทุกภพ ทุกชาติ
นี่คือ *ความลับอำพลาง เคลือบคลุม ไม่มีใครรู้มา ๑๔๐๐ ปี
เพราะไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเข้าใจ จากเหตุที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎกหลาย ๆ จบ
จึงเป็นกุศลผลบุญ และเป็นสิริมงคลของท่านแล้ว
ที่ผมรู้ได้อย่างนี้ เพราะความบ้าบอ คอแตก ให้ผมอ่านพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม อ่านถึง ๖ จบ
ผลจึงออกมาอย่างนี้ ทำให้เห็นความจริงของโลกและชีวิต ตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้
แล้วได้เอามาสอนพวกท่าน *ผมได้แต่ชี้ทางให้ท่านนะ!
แต่ผมช่วยท่านดับทุกข์ไม่ได้ เป็นเรื่องของท่าน
ผมได้ปรุงอาหาร และจัดสำรับกับข้าวให้ท่านแล้วนะ
ก็อยู่ที่ท่านล่ะ ว่าจะรีบตักกินให้อิ่ม
จะนั่งมองเฉย ๆ หรือจะเดินหนี มันก็เป็นเรื่องของท่าน
ท่านจะทำ ไม่ทำ เป็นเรื่องของท่าน
เพราะบาปกรรมท่านทำขึ้นมาเอง ท่านต้องล้างชำระออกเอง
เพราะ กินข้าวอิ่มแทนกันไม่ได้อยู่แล้ว
*ทำได้แต่พยายามชี้ให้ท่านกิน เท่านั้น