พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ตรัสรู้ ไม่ใช่ความคิดเห็นของใครทั้งสิ้น
*พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลก แล้วท่านก็เอาความจริงเรื่องโลกและชีวิต
มาบอกพวกเราให้ไปปฏิบัติ เพื่อแก้ปัญหาชีวิตของเรา
เพราะพระองค์ ได้แก้ปัญหาชีวิตของพระองค์ สำเร็จมาแล้ว
จนพระองค์หลุดพ้น จากกิเลส ตัณหา อาสวะทั้งหลาย
จนเป็นพระพุทธเจ้า ด้วยพระธรรมคำสอนที่พระองค์ตรัสรู้
พระพุทธศาสนา *จะเจริญรุ่งเรือง *จะต้องขึ้นอยู่กับ พุทธบริษัท ๔
ได้แก่ ภิกษุ, ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา
เราผู้เป็นอุบาสก อุบาสิกา ต้องศึกษาเรียนรู้ เท่ากับพระสงฆ์
พระพุทธศาสนา ก็จะเจริญยั่งยืนด้วยบุคคล ๔ กลุ่ม นี้ละ
พุทธบริษัท ๔ ต้องเรียนพระธรรมคำสอนให้ครบถ้วน ศาสนาพุทธถึงจะตั้งอยู่ในแผ่นดินนี้ได้ถึงห้าพันปี
ถ้าไม่อย่างนั้น ศาสนาพุทธจะหมดไปจากแผ่นดินนี้
เป็นที่หน้าเสียใจว่า
พระพุทธเจ้าท่านอุตส่าห์ บำเพ็ญบุญบารมีมา ๔ อสงไขยแสนมหากัปป์
เพื่อนำพระธรรมคำสอนมาให้เราใช้แก้ไขปัญหาชีวิต
มอบให้กับมวลมนุษยชาติ ได้ใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ตัวเอง
แต่พวกเรามนุษย์ที่เกิดมาภายหลัง ไม่ได้เอาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาศึกษาเรียนรู้
เป็นบาปกรรมอะไร? ของเรา
ที่ไม่ได้เอาพระธรรมคำสอนศาสดาเอกของโลก มาฝึกปฏิบัติกัน
แต่ไปเอาพระธรรมคำสอนของครูบาอาจารย์ ศาสตราจารย์
ที่ยังไม่หมดกิเลสตัณหา ไปปฏิบัติ
ผลที่สุด ก็ไม่ได้อะไรที่เป็นสาระของชีวิต
*ไม่ใช่คำสอนที่ดับทุกข์สร้างสุขได้
เมื่อถึงรุ่นเรา จึงต้องมาเรียนคำสอนของพระพุทธเจ้า
คือ วิธี "สร้างสุขดับทุกข์" กับตัวเองให้ได้
ไม่เช่นนั้น *ลูกหลานของเรา จะไม่รู้ความจริงของโลกและชีวิต
เราก็จะมอบมรดกที่ไร้ค่า ไร้สาระให้กับลูกหลานของเราต่อไปอีก
ทุกคนมีลูกมีหลาน ถ้าลูกหลานเราโง่ บ้านเมืองเรา ก็ไปไม่รอด
เพราะลูกหลานเรา จะต้องรับผิดชอบดูแลบ้านเมืองต่อไป
พวกเราจึงต้องวางหลักการ รากฐานคำสอนของพระพุทธเจ้า
ที่ถูกต้องตรงธรรมตามความเป็นจริง
ว่าสิ่งที่ถูกต้องนั้น พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่างไร?
คือ *ความจริงของโลกและชีวิต
คือ *ไม่เที่ยงเกิดดับ ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
และ *พระธรรมคำสอนแก้ไขปัญหาชีวิตได้ทุกชนิดนั้น เป็นอย่างไร? อย่างนี้เป็นต้น