พระธรรมคำสอนเป็นไฟฉายส่องทาง เพื่อหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
ถ้าเรานำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า มาแก้ไขปัญหาชีวิต หรือเป็นไฟฉายส่องทางชีวิต *ชีวิตเราก็ราบรื่น
แต่ท่านไหนไม่เอาพระธรรมคำสอนไปปฏิบัติหรือ เอาไปเป็นไฟฉายส่องทาง *ก็จะทุกข์ยาก หาที่สุดไม่ได้ ก็ไม่หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
ฉะนั้นพระธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า ถือว่ายิ่งใหญ่มาก หาที่สุดไม่ได้สำหรับชีวิต สำหรับการดำเนินชีวิต
ถ้าเราเอาไม่เที่ยงเกิดดับ ใส่ตัวเรา เราก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงกังวล
เพราะความจริงมันคือ *ความจริง* ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ มันก็เป็นอย่างนั้น
เหมือนเราแก่ ใครจะเชื่อว่าเราแก่หรือไม่แก่ มันก็แก่
มันเป็นความจริง ไม่ขึ้นกับความเชื่อของใคร
ฉะนั้นในชีวิตนี้ ถ้าเรารู้ความจริงอย่างนี้แล้ว
เราก็เอาความจริงไม่เที่ยงเกิดดับ มาใส่ไว้ในตัวเรา
โดยการท่องขันธ์ ๕ อินทรีย์ ๖ ทุกวัน
เหมือนเติมชื่อเพื่อน ลงในโทรศัพท์
ท่านจะโทรหาเพื่อนคนนั้นได้ ท่านต้องใส่เบอร์คนนั้น
ท่านจึงจะได้พูดคุยกับเพื่อนได้ตามปรารถนา
ถ้าท่านไม่ใส่ชื่อเพื่อนลงไปในโทรศัพท์
ท่านก็ไม่สามารถพูดคุย และติดต่อกับเพื่อนได้ เช่นเดียวกัน
ท่านจะยากดี มีจน ยาจก ขอทาน เศรษฐี มหาเศรษฐี มียศ มีศักดิ์ มีตำแหน่ง ไม่มีตำแหน่ง อย่างไรก็ช่าง
ได้ชื่อว่าเกิดเป็นมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ *แต่ชีวิตเท่าเทียมกัน*
ท่านร่ำรวยล้นฟ้าในโลกนี้ แต่ไม่รู้พระธรรมคำสอน ของพระพุทธเจ้าเลย
*ชีวิตท่านคือ ประมาท*
ท่านมีแต่ทางโลก ผลคือ การเวียนว่ายตายเกิด ไม่รู้จบ
เสียชาติเกิด ไปอีกหนึ่งชาติมนุษย์
แต่อีกคนที่ยากจนสุด ๆ ของโลก
แต่ได้รู้พระธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า ฝึกปฏิบัติตามพระองค์ อยู่เป็นนิตย์ เขาคือ *ผู้ที่มีชีวิตอยู่อย่างไม่ประมาท ชีวิตที่มีคุณค่า
*ชีวิตที่เดินตามทางของผู้มีปัญญา ของอริยบุคคล *เป็นอริยทรัพย์
ทางของสุข สุขที่ถาวร คือ *สุขของนิพพาน*
ชาตินี้ท่านยิ่งใหญ่ ไม่เสียชาติเกิดแล้ว