คำนำ
การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกจำนวน ๔๕ เล่ม ต้องศึกษาพระธรรมคำสอนของพระองค์ท่านให้จบ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์แล้วเข้าใจพระธรรมคำสอนของพระองค์ท่านด้วยว่า พระธรรมคำสอนสูตรนั้น ๆ เป็นพระธรรมคำสอนในส่วนที่เป็นผลการปฏิบัติหรือเหตุของการปฏิบัติของพระองค์ท่าน คำสอนสูตรนั้นพระองค์ตรัสสอนผู้ใด สอนอริยบุคคลหรือสอนบุคคลธรรมดาทั่วไป และคำสอนสูตรนั้นพระองค์ท่านตรัสเป็นคำย่อสรุปหรือเป็นคำเต็ม ถ้าเป็นคำย่อแล้วคำเต็มว่าอย่างไร ต้องรู้และเข้าใจพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎกถึงขั้นนี้ก่อน การปฏิบัติของท่านจึงจะถูกต้องตามจริง มีผลออกมามีปัญญาดับทุกข์ได้ ถ้าไม่เข้าใจพระธรรมคำสอนถึงระดับนี้แล้วก็จะนำเอาพระธรรมคำสอนที่ไม่ถูกเหตุ ไม่ถูกผล ไม่ถูกบุคคล ไปปฏิบัติ ผลก็จะออกมาตามเหตุ คือ ได้เพียงแต่หลบทุกชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีปัญญาดับทุกข์ได้
พระพุทธเจ้าสรุปคำสอนของพระองค์ทั้งหมด ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ไว้ว่าพระองค์ท่านสอนแต่เรื่องทุกข์กับการดับทุกข์เท่านั้น ทุกข์เกิดที่ไหนดับที่นั่น ทุกข์เกิดที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ดับทุกข์ที่มันเกิด คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และพระองค์ท่านก็วางหลักการปฏิบัติธรรมเพื่อให้ดับทุกข์ได้ทันที คือ ทางสายเอกวิปัสสนาภาวนาขันธ์ ๕ และอินทรีย์ ๖ ให้รู้เท่าทันสิ่งทั้งปวงในขณะปัจจุบันตามความเป็นจริงของโลกและชีวิตว่าสิ่งทั้งปวง ไม่เที่ยงเกิดดับ เกิดจากเหตุปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราว ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้บุคคลธรรมดาทั่วไป ไปนั่งสมาธิก่อนแล้วไปวิปัสสนา พระองค์ท่านสอนให้วิปัสสนาทันทีแล้วจะมีปัญญาเกิดขึ้น รู้ผิด รู้ถูก ศีลก็เกิดขึ้นเมื่อมีศีลเกิดขึ้นสมาธิจะเกิดตามมา คำสอนของพระพุทธเจ้าที่ถูกต้องเรียงองค์ธรรมเป็น ปัญญา ศีล สมาธิ ไม่ใช่ ศีล สมาธิ ปัญญา ปฏิบัติแล้วมีปัญญาดับทุกข์ได้ทันที
หนังสือเล่มนี้ข้าพเจ้าได้นำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ถูกต้องครบถ้วน คือ ถูกเหตุ ถูกผล ถูกบุคคล ปฏิบัติแล้วดับทุกข์ได้ทันทีมาให้ท่านอ่านและนำไปฝึกฝนตนเอง ถ้าท่านปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนที่เป็นเหตุของการบรรลุมรรคผลนิพพานนี้อย่างจริงจังแล้ว ท่านสามารถฝึกฝนตนเองให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้ในชาตินี้ภายใน ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี อย่างช้า พระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนี้