ในพระไตรปิฎกพระพุทธเจ้าสอน ”ผล” กับพระอรหันต์ แล้วให้พระอรหันต์ไปสอนปุถุชนต่อ
คำว่าไม่เที่ยงเกิดดับ นักปราชญ์ราชบัณฑิต พระ อาจารย์ดัง ๆ
ได้เขียน ได้สอน เฉี่ยวไป เฉี่ยวมา แต่ ไม่เข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งว่าเป็นอย่างไร?
*ทำไมมันไม่เที่ยง?
*ทำไมมันเกิดดับ?
*ไม่รู้จะเอาไปใช้อย่างไร?
*จะเอาไปดับทุกข์อย่างไรไม่รู้?
อันนี้เป็นสาเหตุของการศึกษาเรียนรู้ ที่ไม่จบพระธรรมคำสอน
อ่านพระไตรปิฎกไม่จบ หลาย ๆ จบ อ่าน ๖ จบ ถึงจะเข้าใจ
รายละเอียด ที่ลึกซึ้ง แจ่มแจ้ง ถ่องแท้ โยงไปมา เข้าหากันไป
เมื่อศึกษาเรียนรู้แล้วต้องเข้าใจว่า
พระพุทธเจ้าท่านสอนใคร?
๙๙% ในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าสอน "ผล" กับพระอรหันต์
แล้วให้พระอรหันต์ ไปสอนปุถุชนคนธรรมดา
พระอรหันต์ก็ต้อง ไปหาเหตุ ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
เพื่อที่จะสอน บุคคลธรรมดาอีกครั้งหนึ่ง
ประเด็นตรงนี้ละจึงสำคัญมาก ๆ
เพราะ ถ้าไม่ศึกษาเรียนรู้ พระธรรมคำสอนที่ถูกต้องตรงธรรมแล้ว ก็จะสอนกันผิด
อุปมาเหมือน *ติดกระดุมเสื้อเม็ดแรกผิด ก็ผิดไปตลอด
เมื่อเข้าใจพระธรรมว่า พระองค์สอนใคร
ก็ต้องรู้อีกว่า พระองค์สอน คำย่อ หรือคำเต็ม
ถ้าเป็นคำย่อ แล้วคำเต็มว่าอย่างไร? ต้องหาอีก
ถึงจะได้ฟังคำว่า *ไม่เที่ยงเกิดดับ แต่ก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ไม่เห็น ทั้งที่เป็นชาวพุทธ
และเป็นพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
เพราะแต่ละคนมีกุศลผลบุญ มีปัญญาไม่เท่ากัน ไม่สามารถเข้าถึง ความจริงได้
ที่เขาไม่สามารถเข้าถึงความจริงได้ เพราะเขาไม่มีบุญกุศลพอ
ที่จะฟังธรรมคำสอน ที่เป็นทางสายเอกของพระพุทธเจ้า
ถึงแม้บางครั้ง ได้ยินได้ฟังมา แต่ก็ไม่เข้าใจ ไม่นำไปปฏิบัติ
*ไม่เที่ยงเกิดดับ จึงเป็นพระธรรมคำสอน ที่ถูกละเลยมาตลอด ๑,๔๐๐ ปี*