พุทธบริษัท 4

Last updated: 26 ธ.ค. 2566  |  2381 จำนวนผู้เข้าชม  | 

พุทธบริษัท 4

       การที่เราหมั่นฟังธรรม  ศึกษาธรรมเป็นประจำ  ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีของศาสนาพุทธ ที่อุบาสก อุบาสิกาสนใจในการฟังพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า มีความรู้ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าชัดเจนและแจ่มแจ้ง  ก็ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของพระอริยเจ้าต่อไป      

      พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า  ศาสนาพุทธจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นอยู่กับพุทธบริษัท 4  คือภิกษุ  ภิกษุณี  อุบาสก  อุบาสิกา  และหากมีพุทธบริษัท 4  ที่เป็นพระอริยะ  เป็นอริยบุคคล ศาสนาพุทธก็จะเจริญรุ่งเรืองต่อไปหาที่สุดไม่ได้  ศาสนาพุทธจะเจริญรุ่งเรืองได้ก็ต่อเมื่อ  มีอุบาสก  อุบาสิกาเป็นอริยบุคคล  คือ มีความรู้ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าชัดแจ้ง  และมีพระอริยสงฆ์ที่มีความแตกฉานในธรรมวินัย  เพราะ 2 ส่วนนี้  ภิกษุ  ภิกษุณี  และอุบาสก  อุบาสิกา  ก็จะต้องช่วยกันอบรมสั่งสอนคนธรรมดาสามัญทั่วไปซึ่งเป็นอุบาสก  อุบาสิกาสามัญทั่วไป  พัฒนาคนเหล่านั้นให้เป็นอริยบุคคล

      การฟังธรรมเป็นประจำ  คือ  การเก็บพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาใส่ไว้ในใจให้เป็นข้อมูล  เมื่อเรามีข้อมูลไม่เที่ยงเกิดดับไว้ในใจมากขึ้น  ปัญญามหาศาลจะเกิดขึ้นตลอดเวลา  เมื่อมีปัญญาเกิดขึ้นในใจเรา  ใจเราก็จะเก็บปัญญาหรือความรู้ที่ดับทุกข์ได้  สะสมไว้ในใจของเราตลอดเวลา  เมื่อมีปัญหา หรือความรู้ที่ดับทุกข์ได้ เก็บไว้ในใจมากมายมหาศาลตลอดเวลา  เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม  เราก็จะถ่ายทอดธรรมให้คนทั้งหลาย ที่จะมาศึกษาพระธรรมคำสอนกับเราในอนาคต  ได้อย่างเหมาะสมถูกต้อง ตามธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไว้

      การกระทำของเราในฐานะอุบาสก  อุบาสิกาวันนี้  เป็นการเริ่มต้นของศาสนาพุทธที่ถูกต้อง เพราะศาสนาพุทธ ที่ถูกต้องจะต้องมีอุบาสก อุบาสิกาเป็นฐานรองรับของศาสนาพุทธ  คือ อุบาสก  อุบาสิกาที่เป็นปุถุชนคนธรรมดา  แล้วพัฒนาจากปุถุชนคนธรรมดามาเป็นอุบาสก  อุบาสิกาที่เป็นอริยบุคคล  จะต้องมีการพัฒนาเป็นลำดับ ๆ  หลังจากนั้นก็จะพัฒนาเป็นพระอริยบุคคล  ซึ่งจะเป็นการสืบสานที่ต่อเนื่องของศาสนาพุทธ  คือ  เป็นการสืบต่อพระธรรมคำสอนส่งต่อกันได้อย่างเหมาะเจาะ  คือ  คนที่มีความรู้ ส่งต่อให้คนที่มีความรู้ตลอดเวลา  ฉะนั้นพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า  คือ  วิธีแก้ไขปัญหาชีวิตของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ในโลกจักรวาลนี้  ก็จะมีไว้ให้มนุษย์และเทวดา  ได้ศึกษาเรียนรู้สืบต่อไป

      เพราะฉะนั้นการที่เรามาฟังพระธรรมคำสอน  มาศึกษาธรรมก็ถือว่า เราได้มาเรียนรู้พระธรรมคำสอนที่เรียกว่า  ปริยัติ  ได้ศึกษาเรียนรู้ด้วยการฟัง  เมื่อปริยัติแล้วเราได้นำไปปฏิบัติ ก็มีผลออกมาเรียกว่า  ปฏิเวธ  เราจะรู้เห็นได้ด้วยตัวเราเองว่า  พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าปฏิบัติแล้ว สามารถดับทุกข์ได้ทันที  ซึ่งก็ตรงกับพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าใน 84,000 พระธรรมขันธ์  ที่พระองค์ท่านสรุปว่า  คำสอนของพระองค์ท่านทุกสูตร  สรุปลงเรื่องทุกข์กับการดับทุกข์

      เมื่อเราเอาพระธรรมคำสอนไปปฏิบัติแล้วดับทุกข์ได้ทันที  ก็หมายความว่า  เราปฏิบัติตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้  ในเมื่อตรงตามพระธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้  มันก็ไม่ผิดเพี้ยน  ผลก็ออกมาให้เราสร้างสุขดับทุกข์ให้กับตัวเราเองตลอดเวลา  การปฏิบัติธรรมที่ถูกธรรมเราจะเห็นได้ว่า  เป็นการสร้างสุขดับทุกข์ให้กับตัวเราเป็นลำดับๆ  ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติ

      เมื่อเราปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง  เราก็สร้างสุขดับทุกข์ให้กับตัวเราเองเป็นลำดับ ๆ  อย่างที่เราเป็นอยู่  ทุกข์ที่เคยมี  เคยทุกข์แสนสาหัสอย่างสมัยก่อนในชีวิตเราก็ไม่มี  มันก็เบาบางลงไป  สุขที่เราไม่เคยมีไม่เคยพบ  ก็จะได้คืนกลับมา  นี่คือการให้รางวัลชีวิตแก่ตัวเราเอง  ด้วยการปฏิบัติธรรมถูกต้องตรงตามธรรม

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้