คำสอนพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ คือรู้จริงรู้แจ้งเรื่องโลกและชีวิต

Last updated: 13 ต.ค. 2562  |  739 จำนวนผู้เข้าชม  | 

คำสอนพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ คือรู้จริงรู้แจ้งเรื่องโลกและชีวิต

คำสอนพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ คือ รู้จริง รู้แจ้ง
     เรื่องโลกและชีวิต...  ไม่ใช่ตรัสรู้เรื่องอื่น
     ที่เรียกว่าตรัสรู้ คือ  รู้แจ้งแทงตลอด เรื่องโลกและชีวิต
     แล้วพระองค์ท่านก็สรุปว่า....
คนเราทุกข์ เพราะ มันหลง ตามไม่ทันสิ่งที่มากระทบ

     ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
     ถ้าเราตามทัน สิ่งที่มากระทบ ตา หู จมูก 
     ลิ้น กาย ใจ เราก็ไม่หลง

เมื่อไม่หลงก็ไม่โลภ ไม่โกรธ ก็จบ
     มันก็ดับทุกข์ได้  แก้ปัญญาชีวิตได้
แต่ทุกวันนี้ มันยังหลงอยู่  เพราะเราตามไม่ทัน
     แต่การตามทัน มันทำไม่ได้ง่าย ๆ
     คิดได้ไม่ยาก... แต่มันทำยาก คิดจะทำตามที่คิด
     มันทำไม่ได้... เพราะข้อมูลสั่งให้เราทำ มันไม่มี
อย่างเช่น  การอยากหนีทุกข์ไปหาสุข

แต่ข้อมูลสร้างสุขไม่มี   มีแต่ข้อมูลสร้างทุกข์
     แล้วจะเอาข้อมูลสร้างทุกข์... มาสร้างสุขก็ไม่ได้
     เพราะ "เหตุตรงผล"

ข้อมูลสร้างทุกข์... มันก็สร้างได้แต่ทุกข์

ข้อมูลสร้างสุข... มันก็สร้างได้แต่สุข
     พระพุทธเจ้าเห็นความจริงอย่างนี้!
     พระองค์ก็บอกความจริงให้กับเราอย่างนี้ ว่า
     ถ้าเราอยากสร้างสุข เราก็ต้องใส่ข้อมูลสร้างสุขไว้มาก ๆ
ข้อมูลสร้างสุข  ‪‎คือข้อมูลความจริงของโลกและชีวิต
     คือ ‪‎ไม่เที่ยงเกิดดับ

ข้อมูลสร้างสุขที่จะต้องเติมเข้าไปมีแค่ ๖ ทาง

คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเท่านั้น สั้น ๆ ง่าย ๆ
     **ขอให้เติม อย่างไม่ขาดสาย  ให้ไหลลื่น...
     **โดยใช้ความเพียรเป็นที่ตั้ง เป็นฐานอันมั่นคง
     **ไม่ลังเลสงสัย ในพระธรรมคำสอน

     **ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้าง

     **มุ่งมั่น มานะ อดทน อดกลั้น

     **ต่อการถูก กระทบสัมผัส ทั้ง ๖ ทาง

เติมข้อมูลสร้างสุขคือ ท่องไม่เที่ยงเกิดดับ

     ที่เป็นปัญญา เป็นความสุข เอามาเป็นข้อมูลไว้ในใจ
     ความสุขก็จะหลั่งไหลมาหาเรา อย่างไม่ขาดสาย

ด้วยการฝึกท่อง…
>ตาเห็นรูป รูปไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
>หูได้ยินเสียง เสียงไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
>จมูกได้กลิ่น กลิ่นไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
>ลิ้นได้รส รสไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
>กายสัมผัสไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
>ใจคิดนึกไม่เที่ยงเกิดดับ ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ
 เติมข้อมูลความจริงใส่ในใจเรา…

 พระพุทธเจ้าให้แยกความจริง ออกจากความเชื่อให้ได้

     ถ้าแยกได้จะไม่มีปัญหาในชีวิตเลย

     ให้รู้ก่อนว่าตัวเราสั่งตัวเราไม่ได้  แล้วอะไรสั่งเราละ

พระพุทธเจ้าตรัสว่า นิสัย สันดาน วาสนา บุญบาป

     หรือข้อมูล เป็นตัวสั่ง ใจให้คิด..สั่งปากด่า  สั่งให้มือต่อย

     มันเป็น ๓ ระดับ

แต่ทุกวันนี้ศึกษาเรียนรู้ว่า “ใจสั่งกาย นั้นมันไม่ครบ”

พระพุทธเจ้าสอนว่า 

       ๑. ข้อมูล หรือนิสัย สันดาน เป็นตัวสั่งใจ

       ๒. เมื่อใจคิด  แล้วใจก็สั่งร่างกาย

       ๓. ให้ปากด่า มือต่อย = ร่างกายก็เคลื่อนไหวไปตามที่ใจสั่ง

ฉะนั้นการที่จะเปลี่ยนข้อมูลผิด  ให้เป็นข้อมูลถูก

     หรือเปลี่ยนจากทุกข์ไปหาสุข  เราต้องเปลี่ยนที่ข้อมูล

     ไม่ใช่เปลี่ยนที่พฤติกรรม...

การเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการหลอกล่อของศาสนาพราหมณ์

     พราหมณ์จะสอนว่า  อันนั้น อันนี้ไม่เป็นมงคล  สีนั้นสีนี้ไม่เป็นมงคล

     พูดคำว่า "ตายไม่เป็นมงคล" ฯลฯ และอีกมากมาย

แต่ความจริงแล้วคำว่า "ตาย" นั้นพระพุทธเจ้าให้เห็นตามความจริง 

     ที่แท้จริงว่า “ตัวฉันไม่เที่ยงเกิดดับ”

     ตัวฉัน “ตายได้ตลอดเวลา... ตายได้ทุกลมหายใจ เข้าออก”

ถ้าพราหมณ์  ก็จะว่าแช่งตัวเองตลอดเวลา  ไม่ดีกับตัวเอง

แต่มันคือความจริง!

ความจริง  ที่เตือนให้เราระลึกถึงความไม่ประมาทในชีวิต

(ในทางธรรม) ไม่ประมาทคืออะไร?

     คือการให้เราได้เติม “ไม่เที่ยงเกิดดับ”

     คือเติมปัญญา  หรือกุศลผลบุญให้ตัวเองตลอดเวลา

     ทุกลมหายใจ  เข้าออกเช่นเดียวกัน “กับความตาย”

การเกิดของเรา  ก็เหมือนเป็นการเริ่มจุดฉนวนระเบิดไว้แล้ว

     ว่าจะระเบิดเมื่อไร?  ตายเมื่อไร?

     สายฉนวนใครจะยาวกว่าใคร?

ฉะนั้นเราจึงเอาความจริงมาใส่ไว้ในตัวเราให้มากที่สุด

ความจริงที่ว่าคือ "การท่องไม่เที่ยงเกิดดับ" เป็นปัญญาที่ดับทุกข์ได้

     เป็นบุญกุศลที่เราสามารถเอานำติดตัวไปได้

     ถ้าเราไม่ท่องอย่างนี้  พระพุทธเจ้าว่า "ท่านเสียชาติเกิด" ไปฟรี ๆ ในชาตินี้

เพราะ ผี เปรต สัตว์ นรก เดรัจฉาน จองตัวท่านไว้อยู่แล้ว

     เพราะการที่จะเกิดเป็นมนุษย์นั้น ยากมาก ๆ

     ยากกว่าการเกิด "เป็นเทวดา อินทร์ พรหม" เสียอีก

     เพราะไม่รู้จะได้เกิดเป็นมนุษย์อีกเมื่อไร?

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้