เกิดมาไม่เสียชาติเกิด

พระอรหันต์ไม่สามารถแสดงฤทธิ์อวดใครได้ ....เมื่อ พ.ศ. ๑๐๗๙ พระไชยะเถระ เป็นพระอรหันต์     องค์สุดท้ายที่นิพพาน สาระธรรมของศาสนาพุทธ  จบเลย! ....คนก็หันไปกราบไหว้ เจดีย์ จอมปลวก ไหว้ผี สาง     อ้อนวอนเต็มบ้าน เต็มเมือง... หลังจาก พ.ศ.๑๐๗๙ ....ลำพูนก็เข้า.... ‪#‎สู่ยุคฤาษีทันที ....ฤาษีเฟื่องฟู

เราไม่เคยรู้เรื่องตัวเราเลย แล้วเราจะไปรู้จัก ‎พระพุทธเจ้านั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะคนที่จะรู้จักพระพุทธเจ้านั้น ต้องรู้จักตัวเองก่อน .....ว่าฉันเป็นใคร? .....เกิดมาทำไม? .....เป้าหมายชีวิตอยู่ที่ไหน? .....ชีวิตคืออะไร? เราต้องตอบคำถามของเราให้ได้ก่อน

เราจะเห็นว่าชาวพุทธส่วนใหญ่  ปฏิบัติตัวเป็นพราหมณ์แทบจะทั้งหมด พุทธพราหมณ์จะเป็นคนขี้เกียจ ไม่อยากทำอะไร      ชอบการอ้อนวอนเร็วดี ....มันผิดธรรมะ ผิดธรรมชาติ     ใครจะมาบันดาลให้ท่านได้ตามปรารถนานั้นไม่มี เมื่อไม่รู้หลักธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าวางไว้     เราจึงเป็นคนขี้เกียจ.... ในการปฏิบัติธรรม

ทุกคนมีสัญญาความจำ หรือมีนิสัยสันดานเป็นของตัวเอง  อยู่ในตัวเรียบร้อยแล้ว ....นิสัยสันดาน พระพุทธเจ้าเรียกว่า “‪‎วิบาก”  คือ “กรรม”     ภาษาปัจจุบันเรียกว่า ‪ “‎ข้อมูล” ....ทุกวันนี้ ...‎เราใส่แต่ข้อมูลสร้างทุกข์  #‎ไม่เคยใส่ข้อมูลสร้างสุขเลย     ชีวิตแต่ละคนมีแต่ใส่ข้อมูลสร้างทุกข์... ให้กับตัวเอง ‪    ‎มันน่าใจหาย   เราอุตส่าห์เรียนตั้งแต่อนุบาล... ไปจนสูงสุด     แทนที่จะรู้ ‪#‎วิธีสร้างสุขให้ตัวเอง

ตัวของเรามี ๒ ตัว ที่ซ้อนทับกันอยู่ *ตัวที่ ๑  คือ ร่างกายของเราทั้งหมด *ส่วนตัวที่ ๒ คือ จิตใจของเรานั้นแหละ      เมื่อกายกับใจอยู่ด้วยกัน เรียกว่า *มีชีวิต* ความต้องการของ ๒ ตัวนี้  แตกต่างกัน     บางอย่างมีขีดจำกัด  บางอย่างไม่มีขีดจำกัด เช่น เวลาดื่มเหล้า เมื่อดื่มมาก ๆ

๑,๔๐๐ ปี ไม่มีใครรู้ และบอกเราว่า  ผลของการกระทำนั้น เกิดจากข้อมูลเก่าที่เราเก็บไว้มาหลายภพ หลายชาติ     เมื่อไม่รู้ ก็คิดว่า เป็นพรหมลิขิต  แต่มันเกิดจากเราลิขิตเอง เพราะเราไม่รู้  ไม่ได้ศึกษาตัวเราเลย แต่ละวัน แต่ละปีที่ผ่านไป  มันเป็นประสบการณ์ในชีวิตให้รู้ว่า

มนุษย์เราเป็นผู้ทำลายรากเหง้าของโลก ....เพราะความไม่รู้  ก็จะเพิ่มเติม ความอยากความหวัง     ความต้องการ ความปรารถนา หรืออวิชชา ....ความอยาก ความหวังนั้น ๆ จะทำลายสิ่งที่เราเดินผ่านไป     เช่น การเดินเข้าไปในป่าเพื่อตัดต้นไม้ใหญ่     เราจะเดินเหยียบต้นไม้เล็ก ๆ ไปหลายต้น กว่าจะถึงต้นไม้ใหญ่

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา อินทรีย์ ทั้ง ๖ คือ .....ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เริ่มทำงานทันที      เราห้าม ตาไม่ให้เห็น ไม่ได้      ห้าม หู ไม่ให้ได้ยินเสียง ไม่ได้      ห้าม จมูก ไม่ให้ได้กลิ่น ไม่ได้      ห้าม ลิ้น ไม่ให้ได้รส ไม่ได้      ห้าม กายสัมผัส ไม่รู้ร้อน หนาว อ่อน แข็ง ไม่ได้      ห้าม ใจ ไม่ให้นึกคิด ไม่ได้

เป็นบุญของเราที่ได้มาศึกษาเรียนรู้ตัวเองก่อน ทำให้เรารู้ว่า... ตัวเราเป็นระบบธรรมชาติ     เกิดจากเหตุปัจจัยของเรา ที่มาประชุมกัน     ถ้าเหตุปัจจัย ของเรามาประชุมกันถูกต้องครบถ้วนมันก็ถูกต้อง     ถ้าเหตุปัจจัย ไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง มันก็ไม่ถูกต้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้