Last updated: 13 ต.ค. 2562 | 526 จำนวนผู้เข้าชม |
คนสมัยก่อน ท่องไม่เที่ยงเกิดดับ จนได้ อรหันต์
ก็ไม่รู้รายละเอียดเลยว่า ได้มรรคมีองค์ ๘ อย่างไร?
ได้โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการคืออะไร
รู้แต่เพียง “ไม่เที่ยงเกิดดับ” เท่านั้น
ที่เขาว่ามรรค ผล นิพพาน ยากเพราะเขาไม่ได้ท่อง
“ไม่เที่ยงเกิดดับ” ไม่รู้ว่า “โอปนยิโก” น้อมมาใส่ตัว
คือการท่อง... ที่จะเข้าไปอยู่ในใจได้
ที่ผมบอกว่า บรรลุ มรรค ผล นิพพานง่าย เพราะ
ท่านต้องท่องนะ... ใครจะได้เร็ว ได้ช้ากว่ากัน...
ก็อยู่ที่การท่อง มีความเพียรนี่ละ...
มันต้องท่องจนเข้าใจ ...มีในใจให้เต็มใจ
พวกเราพลาดกันตรงนี้อย่างนี้ละ...
นี่คือ ผลของการแยก เหตุและผล คำสอนพระพุทธเจ้าจะต้องรู้ว่า...
#อันไหนเป็นเหตุ #อันไหนเป็นผล
#ไม่เที่ยงเกิดดับเป็นเหตุ #มรรคมีองค์ ๘ เป็นผล
#ความพอใจไม่พอใจเป็นเหตุ #สังโยขน์ ๑๐ เป็นผล
บางคนเอา สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา ฯลฯ ไปท่อง
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเบาบาง ราคะ โทสะ โมหะ
เบาบาง มันเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้ารู้เท่านั้น...
“วิชชา” เป็นเรื่องพระพุทธเจ้ารู้
เมื่ออันนี้เกิดขึ้น อันนี้ก็ไม่เกิด
มันพลาดเพราะเอาผล ไปปฏิบัติกัน
มรรคมีองค์ ๘ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ คือกฎธรรมชาติ ๒ กฎ
คือ กฎไตรลักษณ์ และ กฎอิทัปปัจจยตาปกิจจสมุปบาท
สรุปว่า ไม่เที่ยงเกิดดับ... พระพุทธเจ้าห้าม ไปเกี่ยวข้องสุดโต่ง ๒ ด้านให้อยู่ในสายกลาง
ปฏิบัติตามหลักสายกลาง คือมรรคมีองค์ ๘
ทุกคนก็เอามรรคมีองค์ ๘ ไปปฏิบัติ
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ และห้ามไปเกี่ยวข้อง ๒ ด้าน
มันมีคำหนึ่ง ตรงนี้ที่จะไปถึงคำว่า หลักสายกลาง
ว่า ตถาคตตรัสรู้ มีปัญญา มีดวงตา มีแสงสว่าง
เกิดขึ้นแล้ว เมื่อท่านตรัสรู้แล้ว ต้องตีความว่า
ตรัสรู้อะไร อีกครั้งหนึ่ง ตรัสรู้กฎ ๒ กฎนี้คือ
ไม่เที่ยงเกิดดับ ...และไม่เที่ยงเกิดดับ
หมายความว่า ขยะในใจถูกความจริง
#ไม่เที่ยงเกิดดับ# ฆ่าหมดแล้ว...
3 ต.ค. 2562
3 ต.ค. 2562