กรรมหรือความประมาท

Last updated: 13 ต.ค. 2562  |  661 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กรรมหรือความประมาท

 เราเกิดเรื่องเดือดร้อนเป็นเพราะกรรมล้วน ๆ หรือความประมาท ครับ

กรรมของพระพุทธเจ้า
***ครั้งหนึ่งเคยเป็นนายโคบาล ต้อนแม่โคไปสู่ที่หากิน  เห็นแม่โคดื่มน้ำขุ่นจึงห้ามไว้ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นในภพสุดท้ายนี้  พระองค์กระหายน้ำ จึงไม่ได้ดื่มตามต้องการ
 เพราะเคยให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาถวาย  พระอานนท์ไปแล้วไม่ตักมาบอกว่าน้ำขุ่น  ต้องตรัสย้ำให้ไปตักใหม่เป็นครั้งที่สอง  จึงได้น้ำใสกลับมาเพราะน้ำขุ่นนั้นกลับใส 
     กรรมที่พระพุทธองค์ได้รับนั้น---> เกิดจากกรรมเก่า  แต่พระองค์ไม่ประมาท คือ พระองค์ไม่สร้างกรรมใหม่  ขึ้นมาที่เกิดจาก อินทรีย์ 6 (ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ) แทนที่พระพุทธองค์จะแสดงออกทางกาย วาจา และใจ   แต่พระพุทธองค์พิจารณาถึงความไม่เที่ยง ของกรรมในอดีต และความไม่เที่ยงของน้ำที่ขุ่น  จึงไม่มีกรรมใหม่่ใด ๆ เกิดขึ้น 
ถ้าพิจารณาดี ๆ  แล้วน้ำที่ขุ่นสักพักก็กลายเป็นน้ำใส (ไม่มีน้ำที่ไหนจะขุ่นได้ตลอดเวลา) ซึ่งพระพุทธองค์ก็ใช้ปัญญาพิจารณา  และไม่ได้ต่อว่าพระอานนท์แต่อย่างใด
 ***ดังนั้น  การเกิดเรื่องเดือดร้อนของแต่ละบุคคล ย่อมเกิดจากกรรมเก่าของเราในอดีต  และความประมาทของเราเองด้วยครับ ที่ตามไม่ทันสิ่งที่มากระทบทางตา หู จมูกลิ้น กายและใจ
เช่นเราให้คนยืมเงินแล้วไม่ได้คืนบ่อย ๆ ทุก ๆ ครั้ง   แสดงว่ากรรมเก่าส่งผล และกรรมใหม่ (ความประมาท) ที่เราตามไม่ทัน คือ เราอาจจะตามไม่ทันทางหู  เมื่อมีคนมาพูดยืมเงิน เราก็เชื่อง่าย  เลยให้ยืมเงิน
และที่สำคัญ พ่อ อ.สินธพ พูดบ่อย ๆ  ถ้าวันไหนกรรมเก่าเราจะส่งผล เราท่องไม่เที่ยงเกิดดับไม่ค่อยได้ ท่านบอกว่าวันนั้นให้รีบใส่บาตรตอนเช้า  อุปสรรคต่าง ๆ ก็จะดีขึ้นมาครับ และทำให้
เราท่องไม่เที่ยงเกิดดับได้  และนำไปพิจารณาให้ทันทุกเหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้นทั้ง 6 ทาง ครับ
          ลองพิจารณาดูนะครับ  ว่าวันไหนกรรมเก่าเริ่มส่งผล ก็รีบใส่บาตรในตอนเช้านะครับ หรือมาใส่บาตรพระพุทธเจ้าก็ยิ่งได้ผลไวครับ โดยเฉพาะผู้ที่บรรลุธรรมใหม่ ๆ
กุศลผลบุญของเราได้ถูกใช้ไปหมดแล้ว เพื่อเข้ามาสู่ความเป็นอริยบุคคล จะต้องรีบสร้างกุศลผลบุญโดยเร็วครับ  พ่ออ.สินธพ มักพูดอยู่เสมอว่า ผู้บรรลุธรรมใหม่ ๆ บางคนก็ป่วย บางคนก็มีเรื่องราวเดือดร้อนใจ นั่นแสดงว่าบุญเก่าเราถูกใช้ไปแล้วครับ จะต้องรีบสร้างกุศลผลบุญใหม่  เพื่อไม่ให้บาปอกุศลตามเราทัน  ไม่ใช่เป็นการตัดกรรมครับ  แต่เป็นการหนีกรรม  ท่านเปรียบเหมือนเอาเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ  เทลงในแก้วน้ำ  ความเค็มก็ยังมากอยู่  แต่ถ้าเทน้ำ 200 ลิตรผสมลงไป ความเค็มก็จางลงไป  แต่เกลือไม่ได้หายไปไหนครับ   ดังนั้น "ความเค็ม เปรียบเสมือน บาปอกุศลที่เราสร้างไว้ในอดีต  น้ำเปรียบเสมือนกุศลผลบุญที่เราสร้างขึ้นในปัจจุบัน ครับ"   ผมก็ขอให้ทุกท่านเร่งสร้างกุศลผลบุญไว้ให้มาก ๆ  เพื่อสั่งสมบารมี  ตราบจน บรรลุมรรคผลนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้ ที่เรามีจุดหมายเดียวกันครับ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้